วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2556

แวะมารีวิวอาหารเสริมจ้า ^^

อันเนี้เป็นโปรตีนของนิวทรีไลท์น้ะค้ะ เจ้าของบล็อกกินเอง ดีมากๆ ถ้าสนใจก็ลองไปหาซื้อกันมาทานได้น้ะค้ะ




นิวทริ-โปรตีน NUTRI-PROTEIN
โปรตีน จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย และให้กรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการสร้างโปรตีนชนิดต่างๆในร่างกาย

โปรตีนสกัดเข้มข้น ให้กรดอะมิโนที่จำเป็น ปราศจากไขมันและโคเลสเตอรอล

ส่วนประกอบที่สำคัญ:

สารสกัดโปรตีนจากถั่วเหลือง         73.50%

สารสกัดโปรตีนเข้มข้นจากนม       24%

วิธีเตรียมและบริโภค:

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโปรตีนสกัดจากถั่วเหลืองและนม ปริมาณ 1 ช้อนตวงในกระป๋อง (10 กรัม) ให้โปรตีน 8 กรัม รับประทานวันละ 1 ช้อนตวง โดยผสมนิวทริไลท์ นิวทริ-โปรตีน กับน้ำเย็น  200 มิลลิลิตร

นอกจากนี้ “นิวทริไลท์ นิวทริ-โปรตีน” ยังใช้โรยลงบนข้าวสวย ผัดผักต่างๆ สลัด แกง หรือซุปได้ด้วย ทั้งยังใช้เติมลงในขนมปัง ขนมเค้ก ขนมปังกรอบ หรือเนื้อสัตว์ และอาหารต่างๆได้

คำเตือน : อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค

ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค

ฆอ. 3017/2554


เคล็ดไม่ลับในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ;))




ขอเสนอแนวทางในการเลือกใช้ “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร” หรือ “อาหารเสริม” ไว้พอสังเขป

1. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนี้ตามกฎหมายจัดให้เป็นกลุ่มเดียวกับอาหารและไม่ได้จัด ว่าเป็นยา ทั้งนี้เพราะยังไม่มีการศึกษาหรือมีหลักฐานทางการแพทย์มายืนยันว่า ได้ผลดีและผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร? ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จึงเทียบได้เท่ากับอาหารทั่วไปที่เรารับประทานกันอยู่ทุก เมื่อเชื่อวัน ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้เกิดพลังงาน ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และเสริมสร้างการเจริญเติบโตให้กับร่างกายของเรา ซึ่งไม่มีคุณสมบัติในทางยาที่ช่วยในการป้องกันหรือรักษาโรคที่เป็นปัญหา สุขภาพที่พวกเราประสบกันอยู่ 


2. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนี้มักจะอาจมีการศึกษาหรือมีหลักฐานทางการแพทย์ที่ไม่ดี เพียงพอมายืนยันว่า ได้ผลดีและผลเสียต่อสุขภาพของมนุษย์อย่างไร? แต่อาจจะมีเฉพาะการศึกษาในสัตว์ทดลอง เช่น หนู ลิง หรือกระต่าย เป็นต้น ซึ่งการที่ได้ผลดีต่อสัตว์เหล่านี้ก็ไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันที่ชัดเจนว่าจะ ใช้ได้ผลดีในมนุษย์ เพราะ “มนุษย์ไม่ใช่สัตว์” และถ้าได้ผลดีในมนุษย์ก็ควรมีการศึกษาในมนุษย์เพื่อยืนยันความสำเร็จของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดนั้นที่ชัดเจนเสียก่อน

     อีกประเด็นหนึ่งก็คือผู้ผลิตหลายรายพยายามนำผลการศึกษามาอ้างอิงว่ามีการ ศึกษาในคนแล้ว ในเรื่องนี้ควรพิจารณาถึงจำนวนคนหรือที่นิยมเรียกว่า “จำนวนตัวอย่าง” ที่ใช้ในการศึกษานั้นๆ ด้วย เพราะการที่ได้ผลในคน 5-10 คน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้ผลในทุกคน เพราะในอดีตมียาหลายชนิดที่จะเห็นผลชัดเจนก็ต่อเมื่อได้ใช้ในผู้ป่วยเป็นพัน เป็นหมื่นคนแล้ว ยกตัวอย่างเช่น ยาคลอแรมเฟนนิคอล ที่พบว่าเป็นพิษต่อเลือดชนิดรุนแรง และทำให้เสียชีวิตทุกราย ซึ่งพิษนี้จะพบในผู้ที่ใช้ยาเพียง 1 หรือ 2 รายเท่านั้น จากผู้ใช้ยาทั้งหมดประมาณหนึ่งหมื่นคน เป็นต้น ดังนั้นจำนวนคนที่ศึกษาจึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ควรพิจารณาก่อนเลือกซื้อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพราะคุณอาจจะเป็น “หนึ่งในหมื่น” ก็เป็นได้ 



3.  เมื่อมองในเชิงธุรกิจมีส่วนสำคัญทำให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นที่รู้จัก คุ้นเคย และเข้าถึงประชาชนได้อย่างกว้างขวางทั้งทางโฆษณาตามสื่อต่างๆ และการขายตรง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นด้วยแรงจูงใจทางธุรกิจเพื่อผลกำไร หรือส่วนแบ่งการตลาด ซึ่งส่งผลโดยตรงทำให้การถ่ายทอดข้อมูลแต่เฉพาะผลดี โดยที่ไม่ได้กล่าวถึงผลเสียที่อาจเกิดขึ้นได้
     

       สรุปว่าการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารควรเข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเช่น อาหารไม่ใช่ยา ควรศึกษาถึงผลดีและผลเสียให้ครบถ้วน เพราะผู้ผลิตส่วนใหญ่ดำเนินธุรกิจโดยมีกำไรเป็นผลตอบแทน เพราะต้องการให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีมีประโยชน์กับสุขภาพจริงๆ ไม่ได้เป็นปัญหาเป็นพิษต่อตับ ไต หรืออวัยวะอื่นๆ ของร่างกายของเราที่ประมาณค่ามิได้ แถมยังต้องสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง ตลอดจนความรู้สึกที่ถูกหลอก (แต่เฉยไว้ตามแบบไทยไทย) แต่ก็มีเหลือเล็ดรอดออกมาเป็นข่าวบ้างบางระยะ

วันเสาร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2556

Hello





สวัสดีชาวสังคมออนไลน์ทุกท่าน เราคือบล็อก "อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ" :DD
ฝากเนื้อ ฝากตัว ด้วยน่ะค่ะ คิ__คิ